Fast shipping on all orders
  Sign up to our newsletter and receive exclusive offers and promotions!
Post

10 tips to better heart health before Valentine's day

ตั้งแต่เริ่มเข้าเดือนกุมภาพันธ์มานี้เชื่อว่าหลายคนก็เริ่มวุ่นวายกับการหาของขวัญวันวาเลนไทน์กับคนที่รักกันแน่ๆ มอบความรักให้คนใกล้ตัวแล้วก็อย่าลืมแสดงความรักกับ “ตัวเราเอง” ด้วยนะ ทีมงาน Slimingo ก็ขอมอบ 10 เทคนิคดูแลสุขภาพหัวใจให้แข็งแรงเป็นของขวัญสำหรับเพื่อนๆ ด้วยน้า จะมีอะไรบ้างมาดูกัน

1. ลดการรับประทานแป้งขัดขาว

เพื่อนๆ รู้กันใช่ไหมว่าในขนมที่เราชอบรับประทานกันอย่าง เค้ก ขนมเบเกอรี่ หรือแม้แต่ฟาสท์ฟู้ด มักมีแป้งขัดขาวเป็นส่วนผสมหลัก ด้วยความที่แป้งขัดขาวนั้นย่อยง่ายและถูกดูดซึมได้เร็ว เมื่อเรารับประทานอาหารที่ประกอบด้วยแป้งขัดขาวในปริมาณมากก็จะทำให้ระดับไตรกลีเซอไรด์เพิ่มสูงขึ้น การเผาผลาญไขมันในร่างกายลดลง ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบได้  

2. คิดสักนิดก่อนทานของหวานจัด

นำ้ตาลก็เป็นอีกส่วนผสมที่มีอยู่ในอาหาร ขนม หรือเครื่องดื่มที่เราโปรดปรานกัน อย่างชานมไข่มุกที่กินทีไรก็ฟินทุกที (เพราะน้ำตาลที่มีไม่น้อยอยู่ในนั้นไงหละ) ทานอะไรที่มีรสหวานก็ยั้งๆ กันบ้างนิดหนึ่งนะ เพราะอาจส่งผลถึงปริมาณน้ำตาลในเลือดที่สูงขึ้น นำไปสู่ระดับไขมันที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจและเบาหวานได้

ของขวัญ-วันวาเลนไทน์-ป้องกัน-โรคหัวใจ-valentine

3. หลีกเลี่ยงไขมันไม่ดี

จริงๆ แล้วไขมันไม่ใช่ตัวร้ายซะทีเดียวเพราะร่างกายของเราก็ยังต้องการใช้ประโยชน์จากไขมันอยู่ แต่ทั้งนี้เราก็ต้องเลือกรับประทานไขมันดีเป็นหลัก (เช่น ถั่ว เมล็ดพืช ปลาบางชนิด)ในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงไขมันไม่ดีที่หากระประทานมากๆ ก็จะทำให้ปริมาณคอเลสเตอรอลสูงได้ เช่น อาหารทะเล เนยขาวหรือมาร์การีน นอกจากนี้การรับประทานอาหารทอดก็ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ผ่านการทอดด้วยน้ำมันที่ใช้ซ้ำหลายครั้งจนเปลี่ยนเป็นสีดำ มีกลิ่นเหม็นไหม้ เพราะมีสารอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูง ทำให้เรามีความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือดอุดตันสูงขึ้นด้วย …

Post

Protect your health and skin from PM 2.5 pollution by detox

ช่วงนี้คนในเมืองใหญ่โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 ที่กลับมาทำให้รู้สึกกังวลใจอีกครั้ง เพราะอนุภาคที่เล็กละเอียดถึง 2.5 ไมครอน ทำให้หน้ากากอนามัยที่เราใช้กันทั่วไปไม่สามารถป้องกันได้ 100%

ฝุ่น PM 2.5 อันตรายกับเราอย่างไร

detox-ดีท็อกซ์-pm25-skincare-ฝุ่น-สิว-ริ้วรอย

ฝุ่น PM 2.5 สร้างอันตรายกับเราได้โดยตรงผ่านระบบทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงได้ยากเพราะในทุกๆ วันเราต้องใช้ชีวิตอยู่นอกบ้าน และระหว่างที่เราเดินทางไปยังที่ต่างๆ คือช่วงเวลาที่เราต้องเผชิญกับเชื้อโรคที่แฝงมาในอากาศ หากเพื่อนๆ มีการป้องกันโดยใส่หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐานก็เท่ากับเป็นการปกป้องระบบหายใจและอวัยวะภายในที่ทำงานประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว

ฝุ่น PM 2.5 ทำให้เกิดสิวและริ้วรอยได้อย่างไร?

ฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่สร้างผลเสียต่อสุขภาพเท่านั้น แต่ยังสามารถทำร้ายผิวหนังของเราได้ ทั้งในระยะสั้นที่เกิดจากการที่ชั้นผิวหนังภายนอกได้สัมผัสกับมลพิษโดยตรง และเข้าไปอุดตันที่รูขุมขน ต่อมไขมัน และต่อมเหงื่อจนระบายสิ่งสกปรกจากผิวหนังออกมาได้ยาก เกิดการอุดตันที่รูขุมขน กลายเป็นสิวอุดตันในที่สุด ยิ่งคนที่มีผิวบอบบางอยู่แล้วก็อาจเกิดการอักเสบ เกิดผดผื่นแพ้ขึ้นมาได้ทันที สำหรับผลระยะยาวนั้นอนุภาคของฝุ่นจะแทรกผ่านเข้าผิวหนังและเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชัน (oxidation) ที่ทำลายเซลล์ผิวให้อ่อนแอนำไปสู่การเกิดริ้วรอยก่อนวัย 

detox-ดีท็อกซ์-pm25-skincare-ฝุ่น-สิว-ริ้วรอย

เคล็ดลับดูแลผิวสวยสู้ฝุ่น PM 2.5

เมื่อเราต้องออกไปเจอมลพิษทั้งวัน การทำความสะอาดเพียงแค่ภายนอกอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอเพราะร่างกายรับสารพิษเข้าสู่ชั้นเซลล์ไปแล้ว  เมื่อเราควบคุมสภาพแวดล้อมภายนอกไม่ได้ เราก็ต้องดูแลสุขภาพให้ดีอยู่เสมอเพื่อสร้างเกราะป้องกันไม่ให้มลพิษทำร้ายสุขภาพของเราได้ อย่างการดูแลลำไส้ซึ่งเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับการย่อยและดูดซึมสารอาหารให้มีความสมดุลอยู่เสมอ ร่างกายของเราก็จะดูดซึมสารอาหารที่มีประโยชน์เพื่อเสริมสร้างและซ่อมแซมร่างกายได้เต็มที่ เชื่อหรือไม่ว่าแค่เพื่อนๆ ขับถ่ายให้เป็นเวลาก็ช่วยให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้นแล้ว …

Post

Tips to lose weight and detox after Chinese new year celebration

ในช่วงเทศกาลที่มีการเฉลิมฉลองต่าง ๆ ส่วนใหญ่แล้วเราจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหนัก ๆ หรืออาหารที่มีผลเสียต่อสุขภาพได้ อย่างในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ก็หนีไม่พ้นอาหารจำพวก พะโล้หมูสามชั้น เป็ด ไก่ ที่ใช้ไหว้เจ้า หรือขนมที่มีส่วนผสมของแป้งขัดขาวเป็นหลัก เมนูเหล่านี้ล้วนมีผลกระทบต่อสุขภาพทั้งนั้น โดยน้ำตาลและแป้งที่เรารับประทานเข้าไปจะแปรสภาพเป็นไขมันไปสะสมตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ซึ่งส่งให้สุขภาพแย่ลงได้หากเราละเลยการดูแลตัวเอง วันนี้เราจึงขอพูดถึงการ ดีท็อกซ์เคลียร์ลำไส้ หลังเทศกาลเฉลิมฉลอง เพื่อให้คุณมีสุขภาพที่ดี หุ่นสวย พร้อมที่จะเฉิดฉายได้ในทุก ๆ วัน

การดีท็อกซ์เคลียร์ลำไส้ ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น เพราะสารพิษที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกายได้ถูกกำจัดออกมา ส่งผลดีต่อสุขภาพในระยะยาวเนื่องจากความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็งลำไส้ก็ลดน้อยลงไปด้วย ซึ่งการทำดีท็อกซ์เคลียร์ลำไส้นั้น ก็มีวิธีง่ายๆที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เช่น

1. ดื่มน้ําอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว 

การดื่มน้ำนอกจากจะทำให้ผิวชุ่มชื้นแลดูมีสุขภาพดีแล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องของการดีท็อกซ์ได้ เนื่องจากในร่างกายของเราประกอบด้วยน้ำมากถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่อยู่ในเซลล์ นอกเซลล์ และในกระแสเลือด ด้วยเหตุนี้ทำให้ร่างกายต้องการน้ำเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน น้ำยังช่วยทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายดีขึ้นและช่วยทำให้อิ่มได้เร็วขึ้นเมื่อเราดื่มน้ำระหว่างมื้ออาหาร หากอยากดีท็อกซ์ด้วยวิธีทางธรรมชาติให้ดื่มน้ำ 1 แก้วในตอนเช้าจะช่วยเรื่องของระบบขับถ่ายให้ดีขึ้น และช่วยขับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายได้อีกด้วย

ดีท็อกซ์ลำไส้

2. รับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใย

ในผักและผลไม้ส่วนใหญ่แล้วจะมีไฟเบอร์สูง จึงเป็นตัวดีท็อกซ์ทางธรรมชาติที่ดีอีกวิธีหนึ่ง ผักและผลไม้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย มีไฟเบอร์เยอะช่วยแก้ปัญหาท้องผูกได้ …

Post

How can you have a good shape when you still don’t understand your metabolism?

สาวๆรู้มั้ยคะว่าแค่รู้จัก “ระบบเผาผลาญ” ก็ทํา ให้คุณ หุ่นดี

ระบบเผาผลาญ อยู่ๆคํานี้ก็กลายเป็นคํายอดฮิตขึ้นมาสําหรับคนที่อ้วน น้ําหนักขึ้น ใครๆก็เอาแต่พูดกันว่า “ก็ระบบเผาผลาญเสื่อมเราเลยอ้วนขึ้น” หรือ “น่าอิจฉาจังเลย...ระบบเผาผลาญดี กินยังไงก็ไม่อ้วน” ดูอะไรๆก็เกี่ยวข้องกับระบบเผาผลาญใช่มั้ยคะ แล้วอะไรคือระบบเผาผลาญล่ะ

ระบบเผาผลาญคืออะไร?

ระบบเผาผลาญ (Metabolism) คือ การะบวนการเปลี่ยนแปลงทางเคมีโดยร่างกาย โดยร่างกายจะเปลี่ยสารอาหารที่ได้รับเข้าจากการรับประทานอาหารกลายเป็นพลังงานเพื่อใช้ในการทํากิจกรรมต่างๆในชีวิตประจําวัน โดยปกติแล้ว ร่างกายของเราจะมีการเผาผลาญตลอดเวลา แม้ว่าเราจะอยู่นิ่งๆ หรือแม้กระทั่งเวลาที่เรานอนหลับ ส่วนนี้เราเรียกว่า “อัตราการเผาผลาญขั้นพื้นฐาน” ซึ่งแต่ละคนนั้นจะมีอัตราการเผาผลาญพื้นฐานที่แตกต่างกันออกไป และเมื่อเราออกกําลังกาย หรือว่าทํากิจกรรมที่มีการใช้แรงมากยิ่งขึ้นก็จะทําให้ร่างกายมีอัตราการเผาผลาญที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งอัตราการเผาผลาญของร่างกายในแต่ละวันนั้นมีชื่อเรียกว่า Basal Metabol ic Rate (BMR) ยิ่งถ้า BMR สูงมาก ก็ยิ่งทําให้เราอ้วนยากขึ้นตามไปด้วยค่ะ

แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าระบบเผาผลาญของเรายังดีอยู่?

โดย ปกติแล้ว ร่างกายของเราแต่ละคนนั้นจะมีความสามารถในการเผาผลาญไม่เท่ากัน ในผู้ชายนั้ นจะมีความสามารถในการเผาผลาญมากกว่าผู้หญิงเพราะร่างกายของผู้ชายนั้นมีกล้ามเนื้อมากกว่า ในขณะที่ผู้หญิงนั้นจะมีไขมันมากกว่าผู้ชาย นั่นเป็นเพราะว่าฮอร์โมนเพศนั่นเอง

สาเหตุที่ทําให้ระบบเผาผลาญของเราเปลี่ยนไป

  • อายุ
    โดย ปกติแล้ว ระบบเผาผลาญของเราจะค่อยๆเสื่อมไปตามธรรมชาติ โดยในทุกๆ 10 …

Post

Daily Go and Daily Plus help in gut health, cardiovascular and skin

ผิวสวย สุขภาพลำไส้และหัวใจดีได้แค่ใช้... “Daily Go & Daily Plus”

เคยได้ยินประโยคที่ว่า “You are what you eat” มั้ยคะ?

นี่เป็นประโยคบอกเล่าที่พูดได้ตรงที่สุดกับการเลือกอาหารที่ทาน เพราะว่าทุกสิ่งที่เราทานเข้าไปนั้นส่งผลกับร่างกายของเรา ทั้งนั้น หากเราเลือกของดี ร่างกายของเราก็จะได้รับสารอาหารที่ดี แต่ถ้าหากเราเลือกทานอาหารที่ไม่ดี ร่างกายของเราก็จะทรุด โทรม อ้วน รวมถึงทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ เราจึงได้ยินกันบ่อยๆว่า “ให้ทานอาหารเป็นยา”

ในปัจจุบัน การแข่งขันในหน้าที่การงานสูง ดังนั้นสาวๆหลายๆคน โดยเฉพาะสาวๆที่ทำงานในออฟฟิศจึงต้องทำงานหนักจนไม่มี เวลาที่จะดูแลตัวเอง หรือแม้กระทั่งการเลือกอาหารที่มีประโยชน์ให้กับร่างกาย ดังนั้นอาหารฟาสฟู้ดส์ อาหารเวฟ จึงเป็นอีก ทางเลือกหลักของหลายๆคนสำหรับชีวิตที่เร่งรีบนี้ เพราะสะดวก ไม่ต้องใช้เวลาในการเตรียมมาก แต่สาวๆรู้มั้ยคะว่าอาหารพวก นี้นั้นเป็นภัยร้ายที่แอบแฝง หากเรารับประทานมากเกินไปก็จะทำให้เราเป็นโรคอ้วน ไขมันสะสม คอเรสเตอรอลสูง เสี่ยงไตพังได้

แต่ไม่ต้องห่วงไปค่ะ Slimingo เข้าใจปัญหานี้ของสาวๆดี เราจึงพัฒนา Daily Goและ Daily Plus ขึ้นมาเพื่อช่วยดูแลสาวๆแถม ไม่เปลืองเวลาด้วยค่ะ

แล้ว …